วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ชนิดและรูปแบบไฟล์กราฟิก



ชนิดและรูปแบบไฟล์กราฟิก
    
Pixel (Picture + Element )
           หน่วยพื้นฐานของภาพที่เป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆที่บรรจุค่าสี(ลองซูมภาพของเราเข้าไปมากๆแล้วเราจะเห็นสี่เหลี่ยมเล็กๆที่แต่ละสี่เหลี่ยมที่เล็กสุดจะเก็บสีไว้ 1 สี
Resolution(ความละเอียดของภาพ)
คือจำนวน Pixel ต่อพื้นที่หนึ่งหน่วย เช่น
-จำนวนเม็ดสีต่อตารางนิ้ว
pixels  per inch : ppi
dot per inch : dpi
-จำนวนเม็ดสีต่อตารางเซนติเมตร
 pixel per cm :ppi
72 ppi              : งาน Website
100-150 ppi    :งานทั่วไป
300-350 ppi    :งานออกแบบสิ่งพิมพ์ที่ต้องการความคมชัดในการแสดงผลสูง


รูปแบบของภาพ

1.ภาพแบบบิตแมป(Bitmap)หรือราสเตอร์(Raster)คือภาพที่เกิดจากหน่วยภาพเล็กๆมารวมกันจนเป็นภาใหญ่คล้ายจิ๊กซอร์สามารถดูได้โดยการซูมภาพเข้าไป
กล่าวคือภาพเหล่านี้ยิ่งซูม(ขยาย)ยิ่งแตกจนดูไม่รู้เรื่องเช่นภาพนามสกุล .JPEG, .TIFF,.GIF เป็นต้น
2.ภาพแบบเวคเตอร์(Vector)
คือภาพที่เกิดจากเส้นโค้ง, เส้นตรงและคุณสมบัติสีของเส้นนั้นๆที่เกิดจากการคำนวณทางคณิตศาสตร์(ที่เรามองไม่เห็นด้วยตา)กล่าวคือที่จุดๆหนึ่งของภาพที่เราซูมเข้าไปมันจะเกิดจากการกำหนดคุณสมบัติไว้ว่าภาพเกิดจากเส้นตรงหรือเส้นโค้งที่เอียงกี่องศาเก็บค่ารหัสสีอะไรไว้เมื่อเราซูมขยายภาพไม่ว่าจะขนาดเท่าไหร่ก็ตามภาพมันจะไม่แตก(ไม่สูยเสียความละเอียดไป)เพราะการซูมภาพเป็นการคูณจำนวนเท่าลงไปที่คุณสมบัติภาพนั่นเองดังนั้นถ้าเราแก้ไขภาพก็คือไปแก้ไขคุณสมบัติทางคณิตศาสตร์ไม่ว่าจะย่อหรือขยายกี่ครั้งภาพแบบนี้จะยังคมชัดเท่าเดิมภาพVector เหล่านี้ได้แก่
-ภาพ .wmf (Clipart ที่เราไว้ตกแต่งใน Microsoft Office นั่นเอง)

-ภาพใน Adobe Illustrator, Macromedia Freehand


ชนิดของภาพสำหรับงานกราฟฟิก 

1.JPEG(Joint Photograhic's Experts Group)
จุดเด่น
-สนับสนุนสีได้มากถึง 24 bit
-สามารถกำหนดคุณภาพ และตั้งค่าการบีบอัดไฟล์ภาพได้
-ใช้ใน Internet(Worl Wild Web) มีนามสกุล.jpg
-มีโปรแกรมสนับสนุนการสร้างจำนวนมาก
-เรียกดูภาพได้ใน Graphic Browser ทุกตัว
จุดด้อย
-ไม่สามารถทำให้พื้นที่ของภาพเป็นแบบโปร่งใสได้(Transparent/Opacity)
-หากกำหนดค่าการบบอัดไว้สูงเมื่อส่งภาพจาก Server(แม่ข่าย)--->Client(ลูกข่าย)จะทำให้การแสดงผลช้า
เพราะต้องเสียเวลาในการขยายไฟล์

2.TIFF(Tag Image File Format)
มักใช้ในงานสิ่งพิมพ์-Desktop publishing, 3D application, Faxing, Medical Imaging Applicationภาพที่เราทำและตกแต่งในPhotoshop และ Microsoft PowerPoint ไม่ว่าจะเซฟมาเป็นนามสกุลอะไรก็ตาม ตอนส่งเข้าเครื่องพิมพ์ที่โรงพิมพ์เขาจะแปลงไฟล์และส่งเข้าเครื่องในนามสกุล .TIFF เท่านั้นดังนั้นถ้าท่านออกแบบสิ่งพิมพ์ใน Photoshop หรือ MicrosoftPowerPointขอให้เซฟงานเป็นนามสกุล .TIFF ไปเลยโดยรูปแบบของ TIFF มีหลายประเภทคือ -Grayscale, Color Pallete, RGB full color

จุดเด่น
-เป็นรูปแบบที่ทำให้ภาพแบบราสเตอร์หรือบิตแมปสามารถใช้งานร่วมกับ Appicationต่างๆรวมทั้งโปรแกรมจัดการภาพจากScaner
จุดด้อย
-ไฟล์ภาพขนาดใหญ่เพราะต้องเก็บรายละเอียดความคมชัดไว้สูง




3.GIF(Graphics Interchange Format)
จุดเด่น
-เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับภาพที่จะแสดงบน Web/Internet
-มีขนาดเล็กมาก
-สามารถทำพื้นให้เป็นแบบโปร่งใสได้(Transparent/Opacity)
-สามารถทำเป็นภาพเคลื่อนไหวบนWebPageได้ โดยใช้เครื่องมือช่วยสร้างเช่น JAVA, Flash
-มีโปรแกรมสนับสนุนในการสร้างจำนวนมาก
-สามารถเรียกดูภาพได้ใน Graphic Browser ทุกตัว
จุดด้อย
-แสงภาพได้เพียง 256 สีเท่านั้นไม่เหมาะสำหรับการนำเสนอภาพถ่ายหรืองานที่ต้องการความคมชัดสูง

4.PNG(Portable Network Graphics)
จุดเด่น
-เอาคุณสมบัติของ(JPEG+GIF) มาใช้คือ สีมากกว่า 256สีและโปร่งใสได้(Transparent)
-PNG มีการบีบอัดข้อมูลโดยไม่เสียคุณภาพ
-ทำให้โปร่งใสได้(Transparency) และยังสามารถควบคุมองศาของความโปร่งใส(Opacity)ได้ด้วย
-เก็บบันทึกภาพด้วยสีจริง(True Color) ได้เช่นเดียวกับตารางสี(Pallete) และสีเทา(Grayscale)แบบ GIF
จุดด้อย
-ไม่สนับสนุนภาพเคลื่อนไหวเพราะไม่สามารถเก็บภาพหลายๆภาพไว้ด้วยกันได้
5.BMP (Bitmap)
     ไฟล์ภาพประเภทที่เก็บจุดของภาพแบบจุดต่อจุดตรงๆเรียกว่าไฟล์แบบ บิตแมพ(Bitmap ) ไฟล์ประเภทนี้จะมีขนาดใหญ่แต่สามารถเก็บรายละเอียดของภาพได้อย่างสมบูรณ์แต่เนื่องจากการเก็บแบบBitmap ใช้เนื้อที่ในการเก็บจำนวนมากจึงได้มีการคิดค้นวิธีการเก็บภาพให้มีขนาดเล็กลงโดยยังคงสามารถเก็บภาพได้เช่นเดิมขึ้นมาหลายวิธีการ เช่น JPEG และ GIF

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น